อิชิตัน เราเชื่อว่าวันนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก “คุณตัน ภาสกรนที” เครื่องดื่ม 2024 ผู้บริหารและนักการตลาดอันดับต้นๆ ของไทย เจ้าของอาณาจักรชาเขียวแบรนด์ ICHITAN ที่ทุกคนคุ้นเคยกันดี คุณตันเป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่โดดเด่นและได้รับการยอมรับจากสื่อมวลชนว่าเป็น CEO นอกกรอบ รวมถึง Forbs Magazine ที่เรียกคุณตันว่าเป็น Game Changer ผู้ปลุกปั้นตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยให้เติบโตจาก
900 ล้านบาทไปจนถึงจุดสูงสุด 16,000 ล้านบาท ด้วยประสบการณ์ด้านธุรกิจที่สั่งสมมานานกว่า 30 ปี วันนี้คุณตันจะมาเผยเคล็ดลับและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจจากศูนย์ไปสู่หมื่นล้าน เขาทำได้อย่างไร? มาเรียนรู้แนวคิดธุรกิจจากบุคคลต้นแบบแนวคิดที่กลายเป็นแนวทางสู่ความสำเร็จไปพร้อมๆ กัน Leo
ก่อนจะเป็น “อิชิตัน” อาณาจักรชาเขียวที่ใหญ่ที่สุดในไทย
อิชิตัน บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2553 ในฐานะผู้จำหน่ายเครื่องดื่มชาเขียวพร้อมดื่มแบรนด์อิชิตัน กรีนที โดยเริ่มแรกเป็นการผลิตโดยว่าจ้างผู้ผลิตภายนอก ต่อมาได้ก่อสร้างโรงงานเครื่องดื่ม “อิชิตัน กรีน แฟคทอรี่” ขึ้นที่สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเหตุการณ์มหาอุทกภัยปี พ.ศ. 2554 ก็ส่งผลให้สายการผลิตได้รับความเสียหายเกือบ 100% แต่ด้วยความร่วมแรงร่วมใจของพนักงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้อิชิตัน กรุ๊ปสามารถฟื้นฟู ซ่อมแซมโรงงาน ให้กลับมาเดินสายการผลิตได้อีกครั้งภายในระยะเวลาเพียง 111 เครื่องดื่ม 2024
วันเท่านั้น ต่อมาในปี พ.ศ. 2556 แบรนด์อิชิตันก็สามารถก้าวมาเป็นผู้นำอันดับ 1 ในตลาดชาพร้อมดื่ม ก่อนจะจดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน พร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปีถัดมา ซึ่งในปีเดียวกันนี้ อิชิตัน กรุ๊ปก็ได้เริ่มกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับบริษัท พีที อาทรี่ แปซิฟิค จำกัด (PT Atri Pasifik) ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในอินโดนีเซีย และบริษัท มิตซูบิชิ คอร์เปอเรชั่น จำกัด ประเทศญี่ปุ่นเพื่อทำตลาดชาเขียวในอินโดนีเซีย และในปี พ.ศ. 2561 ได้จับมือกับสมาคมผู้ส่งออกชาจังหวัดชิซึโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ในการทำแบรนด์ชิซึโอกะ กรีนที (Shizuoka Green Tea) เพื่อจำหน่ายในประเทศไทย และสามารถผลักดันให้ชิซึโอกะ กรีนทีกลายเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในกลุ่ม ตลาดชาเขียวกลุ่มพรีเมียมด้วยยอดจำหน่าย 1.2 ล้านขวดต่อเดือน Leo
ธุรกิจที่ควบคู่ไปกับสิ่งแวดล้อม
อิชิตัน กรุ๊ปไม่เพียงพัฒนากลยุทธ์ธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน แต่ยังให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยอิชิตัน กรุ๊ปเป็นหนึ่งในองค์กรที่ได้รับรางวัล CGR 5 ดาว ประจำปี พ.ศ. 2560 ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และได้รับรางวัล Green Factory Level 4 ประจำปี พ.ศ. 2562 สะท้อนให้เห็นถึงความร่วมมือของคณะกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานในองค์กรในการมุ่งมั่นพัฒนาการกำกับดูแลกิจการที่ดีควบคู่ไปกับการดำเนินธุรกิจเพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน เครื่องดื่ม 2024
โดยล่าสุดในปี พ.ศ. 2563-2564 อิชิตัน กรุ๊ปยังได้รับการยอมรับในฐานะแบรนด์อันดับ 1 ของไทยในมุมมองผู้บริโภคจาก Marketeer Magazine นิตยสารธุรกิจการตลาดอันดับ 1 ของไทยอีกด้วย ซึ่งก็ต้องยอมรับจริงๆ ว่าอิชิตัน กรุ๊ป นั้นเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเครื่องดื่มคุณภาพที่มีบทบาทสำคัญในตลาดชาพร้อมดื่มและเครื่องดื่มสุขภาพในประเทศไทยอย่างแท้จริง ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมการผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มคุณภาพและอาหารคุณค่าสูง ทั้งยังมุ่งพัฒนางานวิจัยที่ช่วยให้สามารถทราบความต้องการของผู้บริโภคและคู่ค้าที่มีในปัจจุบัน ตลอดจนต่อยอดไปถึงอนาคต
เปิดอาณาจักรคุณตันที่มีมากกว่าแค่สินค้าชาเขียว
ปัจจุบัน อิชิตัน กรุ๊ปมีเครื่องดื่มในเครือจำนวน 5 แบรนด์ ครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม Leo อาทิ อิชิตัน กรีนที, เครื่องดื่มสมุนไพรเย็น เย็น, อิชิตัน ชิวชิว, อิชิตัน เครื่องดื่มน้ำด่าง และอิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ เป็นต้น โดยวางจำหน่ายสินค้าในกว่า 300,000 ร้านค้าทั่วประเทศ ทั้งร้านค้าที่มีลักษณะเป็นธุรกิจค้าปลีกดั้งเดิม (Traditional Trade)
และธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ (Modern Trade) นอกจากธุรกิจเครื่องดื่มแล้ว ในด้านธุรกิจส่วนตัวของคุณตันยังดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกหลายแห่ง อาทิ โรงแรมวิลล่า มาร็อคในหัวหิน โครงการคอมมูนิตี้ วัน นิมมาน และโรงแรมอีสติน ตัน เชียงใหม่ อาคารสำนักงาน T-One ในกรุงเทพฯ เป็นต้น และล่าสุดในปี พ.ศ. 2565 ที่จะถึงนี้ อิชิตัน กรุ๊ปก็กำลังจะเปิดตัวเจแปนนิส ทาวน์ (Japanese Town) ในชื่อ “Tan Park” ใน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรีอีกด้วย
Together, We Grow เราจะโตไปด้วยกัน กับ 3 จุดแข็งที่ช่วยผลักดันอิชิตัน กรุ๊ป สู่ตำแหน่งแชมป์ในตลาดเครื่องดื่ม
ทุกๆ 1 วินาที จะมีสินค้าอิชิตันถูกจำหน่ายสู่มือผู้บริโภค 30 ชิ้น ทั้งในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน หรือคิดเป็นเกือบ 1,000 ล้านชิ้นต่อปี การที่อิชิตัน กรุ๊ปสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดเครื่องดื่มได้นั้นเพราะมีจุดแข็ง 3 ประการ ได้แก่ การใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ดีที่สุด การควบคุมคุณภาพและต้นทุนที่ดีที่สุด และการตกผลึกของประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน จนทำให้อิชิตัน กรุ๊ปเป็นเจ้าของโรงงานที่มีกำลังผลิตสูงสุดต่อหนึ่งโรง ซึ่งบริหารและควบคุมด้วยระบบการจัดการอัตโนมัติที่มีความแม่นยำสูง
ตั้งแต่การบริหารวัตถุดิบไปจนถึงการบริหารคลังสินค้าอัตโนมัติที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในไทย ปัจจุบัน อิชิตัน กรุ๊ปยังให้บริการธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) หรือ ICHITAN Experience ซึ่งเป็นบริการ One-Stop Service เพื่อผลิตสินค้าเครื่องดื่ม ซึ่งมีวัตถุดิบให้เลือกกว่า 200 รายการ พร้อมทีม R&D ที่เชี่ยวชาญการพัฒนาสินค้านวัตกรรมที่หลากหลายภายใน Pilot Plant ที่ทันสมัยเพื่อจำลองการผลิตสินค้าต้นแบบ ด้วยพื้นที่การผลิตกว่า 30,000 ตารางเมตรที่ได้รับการออกแบบอย่างชาญฉลาดเพื่อขับเคลื่อนทุกขั้นตอนให้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและคล่องตัวที่สุด พร้อมเครื่องบรรจุเย็นปลอดเชื้อที่ทันสมัยที่สุด ทำให้สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตได้มหาศาล ทั้งยังเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับเครื่องดื่มที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ชา กาแฟ น้ำผลไม้ นม และเครื่องดื่มอื่นๆ อีกมากมาย